วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ผู้ให้บริการบล็อก



ž        ประเทศไทย
          * BlogGang.com โดย พันทิป.คอม
          * Exteen
          * BlogKa.com
          * mblog โดย ผู้จัดการออนไลน์
          * StoryThai โดย สตอรี่ไทยดอทคอม
          * GotoKnow ระบบจัดการความรู้ มีให้บริการบล็อก
ž        ต่างประเทศ
          * Blogger บล็อกโดยกูเกิล
          * WordPress.com
          * TypePad (เสียค่าสมาชิก)
          * MySpace มีให้บริการบล็อก
          * Yahoo 360 มีให้บริการบล็อก
          * MSN Spaces มีให้บริการบล็อก
          * Multiply มีให้บริการบล็อก

ความแตกต่างระหว่างบล็อกกับเว็บอื่น ๆ



          ความแตกต่างระหว่างบล็อก แตกต่างจากเว็บอื่น ๆ  บล็อกจะมีลักษณะบางประการที่แตกต่างจากเว็บเพจมาตรฐานทั่วไป โดยบล็อก จะมีอุปกรณ์ที่จะช่วยให้สร้างหน้าเว็บใหม่ได้ง่าย เช่น การใส่ข้อมูลใหม่  (โดยมีหัวข้อ, ประเภท, และเนื้อความ) มี เทมเพลท (Template) อัตโนมัติที่จะจัดการการเพิ่มบทความตามวันที่และหัวข้อเป็น Archive   และมีการกรองเนื้อหาแยกตามวัน ประเภท ผู้เขียนหรืออื่น ๆ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ผู้เขียนบล็อก สามารถสร้างจุดเชื่อมต่อไปยังผู้เขียนคนอื่น เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นไปโดยง่าย

เขียนอะไรเกี่ยวกับบล็อกดี



ž        เมื่อคุณเริ่มมีความคิดที่จะเขียนบล็อก แต่ยังไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีลองนึกถึง เรื่องราวใกล้ตัว ที่คุณชอบและคุณถนัดที่สุด อาจจะเป็นเรื่องที่คุณมีความรู้ลึกซึ้ง หรือ ที่คุณสนใจจะเรียนรู้มัน นั่นจะเป็นหัวเรื่องให้คุณเขียนถึงได้เป็นอย่างดี เช่น หากคุณเลี้ยงสุนัขพันธุ์ชิสุอยู่     คุณอาจจะ ทำบล็อกเกี่ยวกับชิสุโดยเนื้อหาในบล็อกของคุณ อาจเขียนถึงวิธีการดูแลสุนัขชิสุ หรือพูดถึงข่าวสารวงการสุนัขชิสุ โดยคุณจะสนุกกับการหา ข้อมูลมาเขียนและจะได้มีความรู้มากขึ้นในเรื่องสุนัขชิสุด้วย

เรื่องของ Blogger



Blogger เริ่มต้นจากบริษัทเล็กๆ ในซานฟรานซิสโกชื่อ Pyra Labs ในเดือนสิงหาคม 1999 ในยุคเฟื่องฟูของธุรกิจดอตคอม แต่ก็ไม่ใช่กิจการที่สนับสนุนโดยนักลงทุน กลุ่มเพื่อนสามคน สร้างรายได้จากการทำงานในโครงการเว็บไซต์ที่น่าเบื่อให้กับบริษัทใหญ่ๆ และมองหาทางก้าวเข้าสู่โลกแห่งอินเทอร์เน็ตอย่างอลังการ สิ่งที่เขาพยายามทำตั้งแต่แรกนั้นไม่ค่อยมีความหมายสักเท่าไรในขณะนี้ แต่ระหว่างที่เขาพยายามกันอยู่นั้น เขาได้สร้าง Blogger ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และก็คิดว่าน่าสนใจ
Blogger เริ่มต้นดำเนินการอย่างเงียบๆ และเติบโตขึ้นในที่สุด ภายในเวลาไม่กี่ปี เขามีรายได้พอสมควร (แต่ยังคงเป็นทีมงานเล็กๆ) และจากนั้นบางสิ่งก็เกิดขึ้น เงินทุนของเขาหมด และการเดินทางอันแสนสนุกก็เริ่มสนุกน้อยลง เขาเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด อาจจะไม่ครบถ้วนเท่าใดนัก แต่เขาก็ให้บริการมาได้อย่างต่อเนื่อง (เกือบทุกวัน) และเริ่มกลับมาสร้างรากฐานที่มั่นคงต่อไป
การดำเนินการเป็นไปได้ด้วยดีอีกครั้งในปี 2002 เขามีผู้ใช้นับแสนๆ ราย แม้ว่าเขาจะมีกันไม่กี่คน แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดหมายก็เกิดขึ้น: Google ต้องการ ซื้อกิจการของเขา ใช่แล้ว Google ของจริง
เขาชอบ Google มาก และ Google ก็ชอบบล็อก เขาจึงคล้อยตามแนวคิดนี้ และทุกอย่างก็ไปได้สวย
ขณะนี้เขาเป็นทีมงานเล็กๆ (แต่ใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อย) ใน Google ที่มุ่งเน้นในการช่วยเหลือให้ผู้คนมีโอกาสแสดงความคิดเห็นทางเว็บ และจัดระเบียบข้อมูลของโลกจากมุมมองของบุคคล ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือเรื่องหลักที่เราทำมาตลอดนั่นเอง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google โปรดเข้าสู่ google.com (ซึ่งใช้ค้นหาข้อมูลได้อีกด้วย)

ประเภทของบล็อก



การแบ่งประเภทของบล็อก สามารถแบ่งได้หลายวิธี ซึ่งหากแบ่งตามรูปแบบของเนื้อหา เฉพาะที่เห็นเด่นชัด ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้
           1.  Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำ จะใช้สำหรับนำเสนอแหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติมักจะเป็นข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark” หรือ มีชื่อเฉพาะ ว่า Social Bookmark
           บล็อกลักษณะนี้ จะนำเสนอแค่หัวข้อเรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำอธิบายเว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่มความคิดเห็นของผู้จัดทำบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่นกรองข้อมูลให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำลังได้รับความนิยม ซึ่งจะเป็นการช่วยจัดลำดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://del.icio.us/ เป็นต้น
           2. Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำ จะใช้สำหรับนำเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเองผ่านข้อเขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออกไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของบุคคลทั่วไป ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.exteen.com หรือ http://www.blogger.com เป็นต้น
           3. Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำหรับเก็บภาพ (ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่คำค้น (tag) ได้ ทำให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.flickr.com เป็นต้น
           4. Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่ใช้สำหรับเก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์ ใส่คำค้น (tag) ได้ ทำให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.aolvideoblog.com เป็นต้น
           5. บล็อกผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้หลายประเภท ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ เก็บลิงค์ (link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำวัน และใส่ปฏิทินรายการงานที่ต้องทำ ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยมีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่า Social Network Service ซึ่งนอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยังมีจุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่วโลก ตัวอย่าง Social Networking Websites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้ ได้แก่ http://hi5.com หรือ http://multiply.com หรือ http://spaces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำว่า blog ใน Social Networking Websites นั้น จะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียนข้อความเช่นบันทึกประจำวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังอาจใช้คำว่า journal แทนคำว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้ เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆ ที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ต้องเสียเวลาไปสมัครใช้งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำยากอีกด้วย)
           อาจจะเห็นได้ว่าผู้เขียนไม่ได้กล่าวว่ามี บล็อกดนตรี หรือ บล็อกที่ใช้เก็บไฟล์เสียง เนื่องจากผู้เขียนยังไม่เห็นว่ามีบริการที่ใดที่มีลักษณะเป็นบล็อกที่ชัดเจนนัก ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่า การทำเพลงให้น่าสนใจ ทำได้ยากกว่าการทำวีดิทัศน์หรือการถ่ายรูป เพราะเพลงที่น่าสนใจจะต้องเป็นเพลงที่กำลังเป็นที่นิยม และส่วนใหญ่เพลงที่กำลังเป็นที่นิยม ก็มักจะเป็นเพลงที่มีลิขสิทธิ์ จึงไม่พบเห็นว่ามีการทำบล็อกเพื่อเก็บเพลงเป็นหลัก (ถ้ามี ก็จะเป็นลักษณะอื่น เช่น เป็นเว็บไซต์เก็บไฟล์เสียง ซึ่งก็ไม่ได้มีลักษณะเป็นบล็อกแต่อย่างใด)    
           รายละเอียดในลำดับต่อไปขอเน้นไปในทาง Personal Journal Blog หรือบล็อกบันทึกเหตุการณ์ส่วนบุคคลมากว่าบล็อกประเภทอื่น ๆ